ตะกรุด จะมีพุทธคุณ ดีทางป้องกันภยันอันตราย
แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
หรือ โชคลาภ นั้นก็แล้วแต่
พระคณาจารย์ต่างๆจะเป็นผู้อธิฐานจิตลงไป
ของดีมีระดับยอดนิยมของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ
ที่สร้างไว้ซึ่งแต่ละดอก
แต่ละท่านพระอาจารย์เป็นผู้สร้าง ล้วนมีวิชาอาคมด้วยอิทธิมหามงคลสารพัดประการ
ตะกรุด เครื่องรางยุคต้นที่ทำด้วยโลหะ
ตะกรุด หมายถึง แผ่นโลหะบางๆ
ที่ม้วนกลมลงอักขระ บางคณาจารย์ถักเชื่อกลงรัก-ปิดทอง
ไม่อาจจะยุติได้ว่าตะกรุด
จะตบแต่งมากน้อยเพียงใด แล้วแต่ ท่านพระคณาจารย์ ต่างๆ
จะสรรค์สร้าง เช่น เชือกถัก-ลงรัก, แบบที่นำผงมาพอกก็มี,
นำมาบรรจุใส่ในไม้รวกก็มี เป็นต้น
ตะกรุดไม่ทราบแน่ชัดว่าเริ่มสร้างตั้งแต่สมัยใด
แต่มีหลักฐานปรากฎชัดในสมัยรัชกาลที่ 5
พระองค์ทรงสร้างเหรียญเสมา จปร. เพื่อแจกเด็ก
เมื่อ พ.ศ. 2444 พระองค์ทรงพระราชทาน
เหรียญเสมา จปร. ด้านบทเจาะรูสำหรับร้อยด้าย
(สำหรับห้อยคอ) และด้านซ้าย-ขวาของเส้นด้ายร้อยไว้ด้วย "ตะกรุด" ไม่ทราบว่าพระคณาจารย์รูปใดปลุกเสก
เพราะสมัยในยุคของพระองค์ มีพระคณาจารย์โด่งดังหลายรูป แต่ทรงโปรดฯมาก คือ
หลวงปู่ปั้น วัดเงิน (รัชฏา-ธิฐาน) ตลิ่งชันซึ่งหลวงปู่ได้รับพระราชทานจีวรลายดอก จปร.
หลักฐานจากรูปถ่ายหลวงปู่ปั้นนุ่งห่มจีวรลายดอก จปร. แต่หลวงปู่ไม่ปรากฎนามในทำเนียบพระคณาจารย์
เพราะไม่ได้สร้างพระเครื่องแต่อย่างใด แต่เป็นพระที่มีวิชาอาคม รุ่นเดียวกับ
หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง กรุงเทพมหานคร
ตะกรุดยุคโบราณ หรือ ตะกรุดยุคเก่า
ส่วนมากทำด้วยเนื้อตะกั่วสังขวานร
คือตะกั่วที่รีดบางและลงอักขระ
ส่วนโลหะอื่นๆนั้นเป็นยุคหลังลงมา มีด้วยกันหลายขนาด
บางองค์มีความยาว 1 เซนติเมตรถึง 3 นิ้ว
ดังเช่น ตะกรุดขนาดเล็กจิ๋วบาง ที่ฝังในเนื้อคน
ก็มีของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
จังหวัดนครราชสีมาเป็นต้น
(ขอบคุณบทความดีดีจาก อิทธิปาฏาหาริย์
พระเครื่อง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น